ขั้นแรกให้พิจารณาปริมาณของคลังสินค้า รวมถึงปริมาณ น้ำหนัก ขนาด ฯลฯ ของสินค้า ว่ารถยกมีความสะดวกในการขนถ่ายหรือไม่ โมเมนตัมของรถยกจะทำให้ชั้นวางเสียหายหรือไม่ และการป้องกันแผ่นดินไหว ความเข้ม
ประการที่สอง พิจารณาว่ามีช่องว่างเพียงพอระหว่างสินค้าบนชั้นวาง จะต้องออกจากช่องดับเพลิงหรือไม่ และการทำงานของคนงานสะดวกและประหยัดแรงงานหรือไม่
สุดท้ายนี้ ให้พิจารณาว่าควรใช้เหล็กชนิดใด วิธีป้องกันสนิมบนพื้นผิว และอื่นๆ
ในขณะที่มั่นใจว่าชั้นวางตรงตามความต้องการ ลดต้นทุนและต้นทุนของชั้นวางนอกจากนี้ประเด็นที่ควรพิจารณาคือ:1.ข้อกำหนดการใช้งานของชั้นวาง, ลักษณะของน้ำหนักบรรทุก, ไม่ว่าจะสามารถตอบสนองความต้องการทั้งหมดของสินค้าที่เก็บไว้, ไม่ว่าการประกอบจะสะดวกและรวดเร็ว, การขนถ่ายสินค้านั้นง่ายและสะดวกหรือไม่ ฯลฯ และ ขนาดของชั้นวางและช่องว่างสามารถตอบสนองความต้องการของคลังสินค้าได้หรือไม่2 ไม่ว่าความต้านทานแรงดัน ทนไฟ และทนต่อแรงกระแทกของชั้นวางจะตรงตามการทดสอบสภาพที่มีอยู่ของคลังสินค้าหรือไม่ ให้พิจารณาอุปกรณ์ล็อคของชั้นวางตาม ตามประเภทของสินค้าที่จัดเก็บ เช่น สลักล็อค หรือการขันสกรู หากชำรุดไม่ว่าจะเปลี่ยนได้สะดวกหรือไม่ นอกจากนี้ ควรยึดมุมทั้งสี่ของเสาของชั้นวางไว้บนฐานคอนกรีตชั้นวางและพื้นควรใช้ชิ้นส่วนฝังหรือใช้น๊อตเคมียึดกับพื้นออกแบบมาสำหรับชั้นวางที่มีน้ำหนักมากเนื่องจากชั้นวางสำหรับงานหนักสามารถรับน้ำหนักได้มากการยึดกับพื้นช่วยให้ชั้นวางมั่นคงและป้องกันการเอียงนอกจากนี้ยังช่วยป้องกันแรงกระแทกและสามารถรับมือกับผลกระทบจากการขนถ่ายเครื่องจักรบนชั้นวางได้3.จำเป็นต้องกำหนดเครื่องหมายที่เห็นได้ชัดเจนบนชั้นวางตามประเภทสินค้า เพื่ออำนวยความสะดวกให้พนักงานตรวจสอบและเติมช่องว่างพื้นที่ของแต่ละฉลากไม่ควรน้อยกว่า 20 ตารางเซนติเมตร และควรกำหนดความชัดเจนและสีของแบบอักษรตามจำนวนหน่วยสูงสุดที่โหลดเครื่องหมายรับน้ำหนักสูงสุด (กก.) ของแต่ละชั้น น้ำหนักบรรทุกสูงสุดที่อนุญาต จำนวนหน่วยน้ำหนักที่อนุญาตให้จัดเก็บในแต่ละช่อง เป็นต้น
เวลาโพสต์: Apr-01-2021